Last updated: 7 ก.พ. 2567 | 262 จำนวนผู้เข้าชม |
SEACON สานต่อความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้าน เสริมความแข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ FAST FORWARD โตแบบฉีกกรอบธุรกิจรับสร้างบ้านไทยทั้งกลุ่ม B2B และ B2C
มนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ที่ซีคอนจะให้เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจในปีนี้นั้น ผสานไปด้วยมิติต่างๆ ที่จะนำสู่ความสำเร็จ ได้แก่ มิติการขับเคลื่อยองค์กรสู่ความยั่งยืนด้วยแนวคิด E-S-G มิติการนำความเชี่ยวชาญในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยมาต่อยอดสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด
อีกทั้งในการพัฒนาศักยภาพทีมซีคอนให้พร้อมสู่การขับเคลื่อนองค์กรที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ให้พร้อมส่งมอบบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้า ซึ่งทุกมิติจะถูกดำเนินการไปพร้อมๆ กัน เพื่อสร้างให้ซีคอนเป็นได้มากกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน สอดรับกับบริบทของสังคมและความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่ม B2C และ B2B ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
ซีคอนยังคงยึด 3 กลยุทธ์หลักเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2567 ประกอบด้วย กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน (Sustainability) ภายใต้แนวคิด E-S-G, กลยุทธ์การแสวงหาฐานลูกค้ากลุ่มใหม่รวมทั้งพัฒนาโปรดักส์ใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และกลยุทธ์ด้านการตลาดยุคใหม่ที่ผสานความสมดุลระหว่างออนไลน์และออฟไลน์อย่างลงตัว เพื่อคงฐานลูกค้ากลุ่มเก่าไว้ในขณะเดียวกับก็สามารถเจาะเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน
โดยทั้ง 3 กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ ซีคอนได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กรได้อย่างแท้จริง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายเชื่อว่าอยู่ในช่วงขาลง แต่ซีคอนก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างดี โดยสร้างยอดขายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
ในปี 2567 ซีคอน ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ประมาณ 10-15% ซึ่งปัจจัยแรกที่ทำให้เติบโตคือการเพิ่มความเข้มข้นในเรื่องการพัฒนาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของธุรกิจ (Business Sustainability) ด้วยกลยุทธ์ ESG ที่องค์กรต้องคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (E-Environment) และสังคม (S-Social)
รวมถึงการวางระบบกำกับกิจการที่ดี (G-Governance) ตลอดจนการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยคำนึงถึงการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ แบบองค์รวม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความไว้ใจ และความสามารถในการประกอบการกิจการในฐานะที่เป็นบริษัทผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกของประเทศไทย
พร้อมกับประสบการณ์ที่มีมากกว่า 63 ปี สร้างบ้านมากกว่า 25,000 หลัง ทั้งยังเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายเดียวที่ยืน 1 ในเรื่องของการสร้างบ้านที่มีคุณภาพมาโดยตลอด อีกทั้งยังสร้างบ้านจากความฝันของลูกค้าให้กลายมาเป็นบ้านจริงที่สมบูรณ์แบบได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นการสร้างความมั่นใจในเรื่องของ branding ได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยที่ 2 คือการผสานการตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างสมดุล ปัจจุบันฐานลูกค้าในออนไลน์ของ ซีคอนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในทุกปีและสามารถแปลงมาเป็นยอดขายได้เป็นอย่างน่าพอใจ สอดคล้องกับการเติบโตของยอดขายในกลุ่มตลาดออฟไลน์ ที่ซีคอนได้จัดกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายเพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพโดยตรง
ในไตรมาสแรกของปี 2567 ซีคอนจะร่วมออกบูธใน 2 งานใหญ่ ประกอบด้วย งานรับสร้างบ้าน และวัสดุ Focus 2024 จัดขึ้นในวันที่ 17 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 ที่อิมแพ็ค ฮออล์ 8 เมืองทองธานี และงานบ้านและสวน Select 2024 จัดขึ้นในวันที่ 23 – 31 มีนาคม 2567 ที่ไบเทค บางนา
และปัจจัยสุดท้ายคือการนำความเชี่ยวชาญในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยมาต่อยอดสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด นำร่องในปี 2567 ด้วยการประกาศสร้างโรงงานผลิตโครงสร้างชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปแห่งที่ 2 ที่ลำลูกกา คลอง 12 บนเนื้อที่กว่า 26 ไร่ ยังเป็นธงสำคัญในการขยายตัวและขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
และก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องแบบ Fast Forward มีกำลังการผลิตได้สูงถึง 120,000 ชิ้นต่อปี นอกจากโรงงานแห่งที่ 2 จะสามารถรองรับลูกค้าที่จองสร้างบ้านกับซีคอน และซีคอน ไอดีแล้ว โรงงานดังกล่าวยังสามารถรองรับลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ลูกค้าบ้านเดี่ยว ลูกค้ากลุ่มธุรกิจรีสอร์ทหรืออพาร์ทเม้นท์ได้อีกด้วย
ตามมาด้วยการประกาศร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ด้วยการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจรับสร้างบ้านมาสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า และสุดท้ายกับการเปิดตัว 6 แบบบ้านใหม่ที่พัฒนาแบบภายใต้แนวคิด Greenery SEACON
ด้วยหัวใจหลักของการพัฒนาที่เน้นการนำธรรมชาติมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ปัจจุบันมีพื้นที่จำกัดท่ามกลางมลภาวะรอบด้านของเมืองในปัจจุบัน ผ่านทาง courtyard หรือลานกลางบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวเอเชียที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์และจินตาการของเจ้าของบ้านเองปิดกั้นจากความวุ่นวายภายนอก นอกจากจะให้ความสงบบริเวณใจกลางบ้านแล้ว
ลานดังกล่าวยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่ถ่ายเทอากาศและรับแสงธรรมชาติ ทั้งยังเป็นจุด view point ของห้องสำคัญทุกห้องภายในบ้านอีกด้วย โดยแบบบ้านใหม่ในซีรีย์ Greenery SEACON ประกอบด้วย 1.แบบบ้าน GREENERY 255 สไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็น Tropical ออกแบบเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่มีการจัดฟังก์ชันได้อย่างลงตัว แยกกันเป็นสัดส่วน มาพร้อมห้องนอนขนาดใหญ่ ห้องแต่งตัวและห้องน้ำในตัวทุกห้อง
และในทุกฟังก์ชันของตัวบ้านสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวคอร์ทกลางบ้าน ทำให้ตัวบ้านรู้สึกโล่งและได้รับแสง ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Facade ระแนงหน้าบ้านที่ทำให้บ้านดูมีความโดดเด่น และยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยจากสายตาคนภายนอก ซึ่งแบบบ้านหลังนี้ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
2.แบบบ้าน GREENERY 255 สไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็น Tropical ออกแบบเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่มีการจัดฟังก์ชันได้อย่าง ลงตัว แยกกันเป็นสัดส่วนมาพร้อมห้องนอนขนาดใหญ่ ห้องแต่งตัวและห้องน้ำในตัวทุกห้อง และในทุกฟังก์ชันของตัวบ้าน
สามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวคอร์ทกลางบ้าน ทำให้ตัวบ้านรู้สึกโล่ง และได้รับแสง ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Facade ระแนงหน้าบ้านที่ทำให้บ้านดูมีความโดดเด่น และยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยจากสายตาคนภายนอก ซึ่งแบบบ้านหลังนี้ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
3.แบบบ้าน GREENERY 470 แบบบ้าน 3 ชั้นสไตล์ MODERN มีลักษณะเป็นบ้านหน้าแคบแต่ฟังก์ชันภายในยังดูโปร่ง โดดเด่นเรื่องการใช้คอร์ท กลางบ้าน ที่สามารถเข้าถึงธรรมชาติได้เกือบทุกฟังก์ชัน ในส่วนพื้นที่พักผ่อนและทานอาหารใช้ DOUBLE VOLUME ทำให้ดูโปร่ง อีกทั้งยังสามารถใช้คอร์ทเพื่อเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ซึ่งแบบบ้านประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 5ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
4.แบบบ้าน GREENERY 486 บ้านสไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็นยุโรป ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่ฟังก์ชันภายในยังรู้สึกโล่งด้วย DOUBLE VOLUME การออกแบบพื้นที่ห้องพักผ่อนและทานอาหารต่อเนื่องเป็นสัดส่วน พร้อมคอร์ทกลางบ้าน เพื่อให้ประโยชน์เรื่องแสง การระบายอากาศของตัวบ้าน ที่เป็นข้อจำกัดของที่ดิน ซึ่งทุกฟังชันหลักในบ้านสามารถสัมผัสกับคอร์ท ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ แบบบ้านนี้ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน
5.แบบบ้าน GREENERY 638 แบบบ้านสไตล์ Modern ถูกออกแบบมาเพื่อให้บ้านได้รับแสงและพื้นที่สีเขียวเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง คอร์ทกลางบ้านและหลังบ้านช่วยให้ภายในบ้านรู้สึกโปร่งและเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างลงตัว ทำให้รู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ไม่รู้สึกอึดอัด และยังสามารถเข้าถึงได้ในเกือบทุกๆ ฟังก์ชันอีกด้วย แบบบ้านมีฟังก์ชันห้อง ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน
และ6.แบบบ้าน GREENERY 970 แบบบ้าน 3 ชั้น สไตล์ Modern โดดเด่นด้วย กรอบ Façade ที่ทำให้บ้านมีเอกลักษณ์มากขึ้น มาพร้อมกับคอร์ทกลางที่เกือบทุกห้องสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวที่ช่วยให้ผ่อนคลายและยังช่วยให้บ้านได้รับแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมกับ Double space ในส่วนของห้องนั่งเล่นและทานอาหาร ทำให้รู้สึกโล่งสบาย สามารถเข้าถึงสวนได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับของครอบครัวขนาดใหญ่ โดยมีขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน
22 ธ.ค. 2567
22 ธ.ค. 2567