Last updated: 23 เม.ย 2566 | 492 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ.เคเอสเค ประกันภัย (ประเทศไทย) เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.ซันเดย์ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “ซันเดย์ ประกันภัย” (Sunday Insurance) ตั้งแต่ปี 2561 โดยภายใต้กลุ่มบริษัท ซันเดย์ อินส์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งมีนักลงทุนชั้นนำจำนวนมาก เช่น Vertex Ventures, Vertex Growth, Quona, SCB 10X, Tencent, Z Venture Capital, Granite Oak, Aflac Ventures, OSK Ventures International Berhad และ SBI Group โดยซันเดย์ ประกันภัยเป็นบริษัทประกันภัยดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยออกแบบประกันภัย เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ซันเดย์ ประกันภัย เป็นบริษัทประกันรายเดียวในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการเติบโตผ่านการรับประกันแบบผสมผสานประสบการณ์ดิจิทัล (Embedded Insurance) โดยการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ใหม่ในวงการประกันภัย (Ecosystem Partnership)ในการให้บริการประกันภัยและการดูแลด้านสุขภาพผ่านโทรศัพท์มือถือการเคลมแบบดิจิทัลและบริการด้านไลฟ์สไตล์ โดยความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัทซันเดย์อินชัวร์เทคซึ่งประกอบด้วย ซันเดย์ ประกันภัย (Sunday Insurance) ซันเดย์ อินส์ (Sunday Ins) ซันเดย์แคร์ (Sunday Care) และซันเดย์ เทคโนโลยี (Sunday Technology)
สิริสุข แมนเมตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซันเดย์ ประกันภัย (ประเทศไทย) กล่าวว่า การรีแบรนด์ในครั้งนี้มุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการที่แตกต่าง และคาดว่าสามารถมีการเติบโตมากกว่า 50% ของเบี้ยประกันภัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังมีบริษัทประกันที่ใหญ่กว่าอีกมาก แต่สิ่งที่สำคัญคือ การเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคเกี่ยวกับการประกันภัยในประเทศไทย
อีกทั้งรวมถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าโดยการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการให้บริการและการออกแบบผลิตภัณฑ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอาจต้องใช้เวลานานในบริษัทประกันขนาดใหญ่ แต่สำหรับ ซันเดย์ ประกันภัย นั้นมีข้อได้เปรียบในการผลักดันสิ่งนี้สู่ตลาดเพราะเริ่มจากมีการดิสรัปตัวเองจากภายใน และทำอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
สำหรับหัวใจหลักของการรีแบรนด์ในครั้งนี้ ซันเดย์ ประกันภัย ต้องการเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ และมอบประสบการณ์ ประกันภัยที่ยกระดับผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล มีการปรับเปลี่ยนลักษณะประกันภัยให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลในราคาที่เข้าถึงได้ผ่านการประมวลผลด้วยเทคโนโลยี AI เช่น การกำหนดราคาแบบไดนามิก (Dynamic Pricing) สำหรับลูกค้าประกันรถยนต์รายบุคคล การปรับความคุ้มครองรายบุคคลสำหรับลูกค้าประกันสุขภาพกลุ่มและอื่นๆ ในอนาคต รวมไปถึงประกันภัยและเฮลท์แคร์ที่สะดวกสบาย และรวดเร็วผ่านซูเปอร์แอปพลิเคชัน ที่ชื่อว่า “Jolly” ซึ่งถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากแอปพลิเคชันประกันภัยทั่วไป ที่สามารถช่วยให้ลูกค้ารู้ทันความเสี่ยงของตนเองมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและไร้กังวล
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่เปิดให้บริการแล้วสำหรับลูกค้า เช่น บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) บริการปรึกษาและรับยาจากเภสัชกรแบบไม่ต้องชำระค่าบริการด้วยเงินสด (Cashless) และบริการวิเคราะห์อาการป่วย (Doctor AI) การแจ้งเตือน PM2.5 รวมถึงฟีเจอร์ไลฟ์สไตล์ดูดวง เป็นต้น ทั้งนี้ ซูเปอร์แอปพลิเคชัน Jolly มีผู้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเดือน (MAU) อยู่ที่ประมาณ 30 - 40%