Last updated: 27 มี.ค. 2567 | 208 จำนวนผู้เข้าชม |
"สิวารมณ์" ทุบสถิติQ1/66 กวาดรายได้กว่า 214 ล้านบาท
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้ าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนิ นงานงวดไตรมาส1/2566 ว่า บริษัทฯประสบความสำเร็จตามเป้ าหมาย โดยมีรายได้รวมที่ 215.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน ที่มีรายได้รวม 134 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้ นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 80.30 ล้านบาท
ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 24.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 137.50 หรือ 14.02 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 10.20 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 11.30 เมื่ออิงจากช่วงไตรมาส1/2565 อยู่ที่ร้อยละ 7.46 และมีกระแสเงินสดคงเหลือ ณ สิ้นไตรมาส1/2566 อยู่ที่ 30.19 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปรับตัวสูงขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสร้างท็อปฟอร์มทำนิวไฮต่อเนื่อง และนับว่าเป็นการทำลายสถิติสู งสุดเป็นประวัติการณ์สะท้อนถึ งความสำเร็จของยอดขายที่เพิ่มขึ้นที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยของกลุ่ม Real Demand เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่ อาศัยแบบ Premium Economy
ทั้งนี้ จากความสำเร็จของยอดขายที่เพิ่มขึ้น เป็นไปตามแผนกลยุทธ์การพั ฒนาโครงการอสังหาฯ ซึ่งจะเห็นได้จากรายได้ จากโครงการเพื่อขายในไตมาส 1/2566 จำนวน 214.39 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 59.90 หรือ 80.31 ล้านบาท จาก 134.08 ล้านบาท ของไตรมาส 1/2565 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการทุ กประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จาก 5 โครงการ คือ โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา - ระยอง), โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท - บางปู), โครงการสิวารมณ์ เน เจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท - บางปู) และโครงการ สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58)
นายรณฤทธิ์ กล่าวว่า ด้วยจุดแข็งการพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว ก่อสร้างเร็ว -ขายเร็ว - ส่งมอบเร็ว และความคุ้มค่า ( Premium Economy) ส่งผลให้ “SVR” ก้าวสู่การเป็นผู้นำพัฒนาอสั งหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living”รายแรกของกลุ่ม Real Demand
โดยในปีนี้ SVR มีแผนขยายการพัฒนาโครงการเข้ามาในพื้นที่ใกล้โซน CBD ของกรุงเทพมากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ ตสินค้า อีกทั้งยังขยายฐานกลุ่มลูกค้ าเซกเมนต์ผู้อยู่อาศัยระดับบน ภายใต้การพัฒนาโครงการระดับพรี เมี่ยมบนบ้านระดับราคาที่สูงขึ้นแตะระดับ 12 ล้านบาท จากเดิมที่เราพัฒนาโครงการระดั บราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อยูนิต โดยมองว่าลูกค้าระดับดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
ดังนั้นเชื่อว่า 3 โครงการที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 3 นี้ อาทิ
1).โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บนทำเลวงแหวนกาญจนาภิเษก ) โครงการบ้านเดี่ยว ขนาด 100 ตารางวา จำนวน 29 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 11-3-80.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ประมาณ 12 ล้านบาทต่อยูนิต โดยโครงการดังกล่าวเป็ นการขยายเซกเมนต์ผู้อยู่อาศั ยระดับบน พร้อมทั้งเชื่อว่าจะสามารถเข้ ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษั ทฯได้อย่างมีนัยสำคัญ
2).โครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (บนทำซอยประชาอุทิศ 76) โครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 91 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 22-3-78 ไร่ มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ประมาณ 5 ล้านบาทต่อยูนิต
3). โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (บนทำเลบางกรวย-ไทรน้อย) โครงการบ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 242 ยูนิต บนพื้นที่ 24-3-39 ไร่ มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ 2-3.5 ล้านบาทต่อยูนิต
อย่างไรก็ตาม จากแผนกลยุทธ์แผนการขับเคลื่ อนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,621 ล้านบาท จะส่งผลเชิงบวกต่อรายได้ที่ จะเริ่มทยอยเข้ามาในช่วงครึ่งปี หลังทันที ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอั ตราการเติบโตในปีนี้เติบโตตั วเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ภายใต้แนวโน้มสร้างสถิติ new high ใหม่จากปี2565 ที่มีรายได้รวม 726.15 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ก็จะยิ่งตอกย้ำการเติบโตสู่ระดั บ High Growth อย่างยั่งยืนในอนาคต
19 ธ.ค. 2567